เมื่อก่อนที่จะเปิดฤดูกาล 2020/21 หลายคนมองว่าเนเธอร์แลนด์มีโอกาสที่จะได้แชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 เหมือนกัน แต่พอเกิดการบาดเจ็บของเฟอร์จิล ฟาน ไดค์นั้นทำให้เกิดวิกฤติกันเลยทีเดียว ไหนจะเป็นการเปลี่ยนโค้ชใหม่อย่างแฟร้งค์ เดอ บัวร์ในเดือนกันยายนอีก

ส่วนโกลตัวจริงแยสเปอร์ ซิเลสเซ่นที่ติด covid-19 ทำให้ความคาดหวังเรื่องการได้แชมป์ของทัพสีส้มก็ลดน้อยลงไปตามระเบียบ

มาคราวนี้ทัพสีส้มถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่ม C ที่มีเพื่อนร่วมสายอย่างยูเครน,ออสเตรียและ นอร์ธ มาซิโดเนีย มองว่ายังไม่น่าจะเป็นงานยากของพวกเขาเท่าไหร่นัก หากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด พวกเขาก็คงจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้อยู่แล้ว เราต้องมาดูว่าเนเธอร์แลนด์ยุคใหม่ที่ไม่ค่อยมีสตาร์ดังเท่าไหร่นัก จะทำได้ดีหรือไม่

ผู้เล่นที่สำคัญที่สุด: แฟรงกี้ เดอ ยอง เขายังอายุ 24 ปี แต่ เดอ ยองเป็นเหมือนห้องเครื่องของดัตช์ในตำแหน่งกองกลาง เขาสามารถเล่นท่ามกลางความกดดันได้ดี ความเฉียบแหลมในการป้องกัน และการพาบอลไปข้างหน้าเชื่อว่าอัศวินสีส้มต้องพึ่งพาเขา หากว่าอยากจะไปได้ไกลกว่านี้

ผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองก็อย่างเช่น ไรอัน กราเวนเบิร์ก ที่เขาเป็นนักเตะตัวหลักของอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม เป็นมิดฟิลด์ประเภท box-to-box ที่เก่งกาจ และเลี้ยงบอลไปข้างหน้าได้ดี มีส่วนกับเกมรุกค่อนข้างมาก

จุดแข็งของพวกเขาเลยก็คือ มิดฟิลด์ที่มีนักเตะให้เลือกใช้มากมายอย่างจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม,แฟรงค์กี้ เดอ ยอง และยังมีนักเตะประสบการณ์สูงอย่าง ดาเลย์ บลินด์อดีตแข้งแมนยูอีก